ขั้นตอนการผ่าตัด เสริมหน้าอก
แพทย์จะเปิดแผลผ่าตัดซึ่งส่วนมากจะเป็นที่รักแร้ เนื่องจากสามารถซ่อนรอยแผลเป็นได้ดี จากนั้นจะเลาะช่องสำหรับวางถุงซิลิโคน อาจเป็นใต้ตัวเนื้อนมหรือใต้กล้ามเนื้อหน้าอกก็ขึ้นกับดุลยพินิจของแพทย์ เมื่อจัดวางถุงซิลิโคนเข้าที่เรียบร้อยแล้วก็จะเย็บแผลปิดด้วยไหมขนาดเล็ก ๆ โดยทั่วไป การผ่าตัดเสริมหน้าอกจะใช้ระยะเวลาในการผ่าตัดประมาณ 2-3 ชั่วโมง หลังการผ่าตัดต้องนอนพักในโรงพยาบาล 1 – 2 วัน ระยะเวลาในการพักฟื้นประมาณ 1 สัปดาห์ ในช่วง 2 -3 วันแรกหลังทำอาจมีความรู้สึกตึงและปวดได้ ถือว่าเป็นอาการปกติ ส่วนตัวเต้านมจะค่อย ๆ ยุบบวมลงจนเข้าที่ใช้เวลาประมาณ 1 – 2 เดือน
การปฏิบัติตนหลังผ่าตัด เสริมหน้าอก
ซิลิโคน เสริมหน้าอก มีอายุการใช้งานนานแค่ไหน?
โดยทั่วไปอายุการใช้งานของซิลิโคนจะประมาณ 10 ปีขึ้นไป ถ้าเป็นซิลิโคนทรงกลมรุ่นที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันจะมีอายุการใช้งานตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป แต่ถ้าเป็นซิลิโคนทรงหยดน้ำ อายุการใช้งานจะนานกว่า คือ 15 ปีขึ้นไป เนื่องจากคุณภาพของเจลดีกว่า แต่ไม่ได้หมายความว่าเมื่อถึงระยะเวลาที่ว่าแล้วจะต้องมาผ่าตัดเปลี่ยนถุงซิลิโคนใหม่ทุกราย ถ้าไม่มีปัญหาหรืออาการผิดปกติใดๆ ก็ยังไม่ต้องผ่าตัดเปลี่ยนใหม่ เพียงแต่หลังจากทำไปนานๆ เช่น หลังเสริมไปแล้ว 10 ปี ควรได้รับการตรวจเต้านมอย่างสม่ำเสมอ เพื่อดูความผิดปกติของซิลิโคน เช่น การตรวจแมมโมแกรม (Mammogram) หรือการสังเกตว่าซิลิโคนหมดอายุหรือไม่ อาการที่บ่งบอกว่าซิลิโคนหมดอายุคือ เริ่มแรกหน้าอกจะนิ่มมาก นาน ๆ ไปจะค่อยๆ แข็งเป็นก้อน ถ้ามีก็ควรรีบไปพบแพทย์ สำหรับท่านที่เสริมหน้าอกมานาน ๆ หลายปีแล้ว และหากเกิดปัญหาถุงซิลิโคน เช่น ซิลิโคนแตก รั่วซึม สามารถผ่าตัดเปลี่ยนเป็นถุงซิลิโคนชนิดใหม่ที่มีความปลอดภัยสูงขึ้นได้
ถุงซิลิโคนเจลเพิ่มความเสี่ยงมะเร็งเต้านมหรือไม่?
การ เสริมหน้าอก ด้วยถุงซิลิโคนเจลไม่มีความเกี่ยวข้องกับการเกิดมะเร็งของเต้านมแต่อย่างใด และพบว่าไม่ได้เป็นสาเหตุของการเจ็บป่วยหลายโรคที่ในอดีตเคยคิดว่าเกี่ยวข้องกับถุงซิลิโคน ยิ่งในปัจจุบันหากใช้ถุงซิลิโคนเจลที่มีคุณภาพสูงหรือถุงซิลิโคนเกรดเอ แม้ว่าถุงซิลิโคนจะแตกรั่วขึ้นมาก็ไม่เป็นสาเหตุก่อให้เกิดมะเร็งเต้านมได้ ส่วนกรณีถุงซิลิโคนหมดอายุ ถ้าไม่เอาออกแม้จะไม่มีโอกาสเกิดมะเร็ง แต่ในระยะยาวหน้าอกจะแข็งเป็นก้อน และเกิดพังผืดรัดแน่นบริเวณซิลิโคนได้ จึงควรพบแพทย์ผ่าตัดเปลี่ยนถุงซิลิโคนใหม่
ก่อนจากกันฝากไว้อีกเรื่อง จะ ทำนม เสริมอึ๋มเพิ่มขนาดให้ หน้าอกใหญ่ ขึ้นทั้งที ก็ควรทำให้สวยครบกันไปเลย ถ้าหัวนมหรือปานนมไม่สวยงาม ทำให้ความมั่นใจมาไม่เต็มร้อย แนะนำให้ผ่าตัด ตกแต่งหัวนม หรือ ตกแต่งปานนม ไปพร้อมกับการเสริมเต้านมเลยก็ดี ต่อไปเวลาส่องกระจกจะได้เห็นเต้านมสวยๆ โดยไม่มีอะไรให้สะดุดค่ะ
![]() |
เสริมหน้าอกมาแล้ว พบว่าหน้าอกข้างหนึ่งนิ่ม ข้างหนึ่งแข็ง จะเป็นอะไรหรือไม่ และต้องทำอย่างไร |
![]() |
หลังการผ่าตัดหากยังไม่ครบ 1 เดือน ให้นวดคลึงบริเวณหน้าอกเพื่อลดความแข็งตัวของเต้านม แต่ถ้าเกิน 6 เดือนไปแล้วหน้าอกยังแข็ง ต้องมาพบแพทย์เพื่อทำการผ่าตัดพังผืดออก |
—————————————————- | |
![]() |
เสริมหน้าอกแล้วสามารถให้นมบุตรได้หรือไม่ |
![]() |
หลังการเสริมหน้าอก สามารถให้นมบุตรได้ตามปกติ เนื่องจากไม่ได้ผ่าตัดบริเวณท่อน้ำนม และท่อน้ำนมยังคงผลิตน้ำนมได้ตามปกติ |
—————————————————- | |
![]() |
ซิลิโคนเสริมหน้าอกมีกี่แบบ |
![]() |
ซิลิโคนที่ใช้ในการเสริมหน้าอกมี 2 แบบ คือ • ซิลิโคนทรงกลม เหมาะกับคนที่ต้องการเสริมหน้าอกขนาดใหญ่ หลังเสริมจะไม่เกิดการหมุนผิดรูปของซิลิโคน คนไข้ต้องนวดหน้าอก เพื่อป้องกันการเกิดพังผืดหดรัดถุงซิลิโคน • ซิลิโคนทรงหยดน้ำ เหมาะกับคนที่ไม่ต้องการหน้าอกใหญ่มาก หลังเสริมจะได้หน้าอกที่ดูเป็นธรรมชาติ คนไข้ไม่ต้องนวดเต้านมหรือนวดบ้างเล็กน้อย เพราะการนวดผิดวิธีอาจเสี่ยงที่เต้านมจะบิดเบี้ยวผิดรูปได้ |
—————————————————- | |
![]() |
ในการเสริมหน้าอก แพทย์จะใส่ซิลิโคนเข้าทางไหน |
![]() |
โดยปกติ ในการเสริมหน้าอกแพทย์จะเปิดแผลผ่าตัดเพื่อใส่ซิลิโคน 3 ตำแหน่ง ดังนี้ • บริเวณรักแร้ • บริเวณปานนม • บริเวณฐานนม แต่ส่วนใหญ่คนไทยและคนเอเชียมักนิยมผ่าตัดที่บริเวณรักแร้ เนื่องจากสามารถซ่อนรอยแผลได้ดี เริ่มนวดหน้าอกได้เร็ว และแผลจะหายเร็วและสวยกว่าผ่าตัดเข้าทางอื่น |
—————————————————- | |
![]() |
การเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคนจะก่อให้เกิดโรคมะเร็งเต้านมหรือไม่ |
![]() |
การเสริมหน้าอกไม่ได้เป็นตัวกระตุ้นหรือก่อให้เกิดมะเร็งเต้านมแต่อย่างใด เพราะซิลิโคนที่ใช้ในการเสริมหน้าอกนั้นได้ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA) แล้วว่ามีความปลอดภัย ไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย |
—————————————————- | |
![]() |
ถุงซิลิโคนมีอายุการใช้งานเท่าไหร่ |
![]() |
โดยทั่วไป อายุการใช้งานของซิลิโคนจะประมาณ 10 ปีขึ้นไป แต่มิได้หมายความว่าเมื่อเสริมไปแล้ว 10 ปี จะต้องเปลี่ยนถุงใหม่ทุกราย ถ้าลูกค้าไม่พบปัญหาหรืออาการผิดปกติใดๆ บางคนอยู่ได้ตลอดชีวิตโดยไม่ต้องแก้ไขก็มี อย่างไรก็ตาม ควรมาตรวจเช็คเป็นระยะ ส่วนใหญ่หลังเสริมหน้าอกไปได้ 10 ปี แพทย์จะแนะนำตรวจแมมโมแกรม เพื่อดูว่าซิลิโคนยังอยู่ปกติดีหรือไม่ ส่วนการสังเกตว่าซิลิโคนหมดอายุหรือไม่ให้ดูดังนี้ เริ่มแรกหน้าอกจะนิ่มมาก นาน ๆ ไปจะค่อยๆ แข็งเป็นก้อน ถ้ามีอาการดังกล่าวควรปรึกษาแพทย์ |
—————————————————-
ถ้าต้องการขนาดหน้าอกที่ใหญ่สามารถทำได้หรือไม่
ในการเสริมหน้าอก จะเสริมได้ใหญ่เพียงใดหรือใส่ซิลิโคนได้สูงสุดกี่ซีซี แพทย์จะพิจารณาจากพื้นที่ และเนื้อบริเวณหน้าอกของลูกค้า ในกรณีที่ต้องการเสริมหน้าอกขนาดใหญ่ ถ้าพื้นที่ และเนื้อบริเวณหน้าอกมีมากก็สามารถเสริมขนาดใหญ่ได้ อย่างไรก็ตาม การทำขนาดใหญ่เกินไป อาจทำให้ดูไม่เป็นธรรมชาติ หรือเห็นขอบของซิลิโคนได้
—————————————————-
หลังการผ่าตัดเสริมหน้าอกจะมีอาการบวมมากหรือไม่
หลังการผ่าตัดจะมีอาการบวมประมาณ 1 เดือน และจะเริ่มยุบลงจนเข้าที่ประมาณ 3-6 เดือน
—————————————————-
การเสริมหน้าอกจะช่วยในเรื่องของหน้าอกหย่อนยานหรือไม่
ในกรณีที่หน้าอกหย่อนยานไม่มาก การเสริมด้วยถุงซิลิโคนสามารถดันให้เต้านมตั้งขึ้นได้ในระดับหนึ่ง แต่ถ้าหน้าอกหย่อนยานมาก การเสริมหน้าอกไม่สามารถช่วยได้ ควรผ่าตัดเสริมพร้อมยกกระชับหน้าอกจะได้ผลดีที่สุด
—————————————————-
เสริมหน้าอกไปแล้วประมาณกี่ปีจึงจะต้องมาทำการแก้ไขหน้าอกใหม่
โดยทั่วไปอายุการใช้งานของซิลิโคนจะประมาณ 10 ปีขึ้นไป แต่ถ้าไม่พบปัญหาอะไรสามารถอยู่ได้ตลอดชีวิตโดยไม่ต้องแก้ไขอะไร อย่างไรก็ตาม แพทย์จะแนะนำให้มาตรวจเช็คเป็นระยะเพื่อดูว่าซิลิโคนยังอยู่ปกติดีหรือไม่
—————————————————-
เสริมหน้าอกโดยวางซิลิโคนบนชั้นกล้ามเนื้อกับใต้กล้ามเนื้อ แบบไหนดีกว่ากัน
ดีทั้งสองแบบ แต่แพทย์จะเลือกวางแบบไหนขึ้นกับลักษณะเต้านมของลูกค้า เช่น มีเนื้อเต้านมหรือไขมันใต้ผิวหนังบริเวณอกมากน้อยเพียงใด, กล้ามเนื้อแข็งแรงหรือไม่ เป็นต้น
หากมีขนาดหน้าอกสองข้างไม่เท่ากัน การเสริมหน้าอกจะช่วยแก้ไขหน้าอกให้เท่ากันได้หรือไม่
ปกติตามธรรมชาติผู้หญิงมีขนาดหน้าอกไม่เท่ากันอยู่แล้ว ถ้าไม่ได้แตกต่างจนเห็นชัดเจนก็ไม่ต้องแก้ไขอะไร แต่ถ้าเห็นชัดเจนแล้วต้องการแก้ไข การเสริมอกสามารถทำให้หน้าอกมีขนาดใกล้เคียงกันได้
การเสริมหน้าอกมีโอกาสที่ซิลิโคนจะแตกหรือไม่
ปัจจุบัน โรงพยาบาลยันฮี ใช้ซิลิโคนเสริมหน้าอกที่มีคุณภาพสูง โดยเจลที่อยู่ภายในถุงซิลิโคนมีความหนาแน่นสูง โมเลกุลยึดเกาะกันได้ดี จึงไม่มีโอกาสที่จะรั่วซึมหรือแตกไหลไปสัมผัสกับเนื้อเยื่อของร่างกาย
หลังเสริมหน้าอก สามีสามารถจับหน้าอกได้เมื่อไหร่
หากแผลผ่าตัดหายสนิท และไม่มีอาการเจ็บใดๆ ก็สามารถจับหน้าอกได้ตามปกติ
ขอบคุณที่มา : https://th.yanhee.net
หน้าที่เข้าชม | 101,651 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 84,799 ครั้ง |
เปิดร้าน | 21 มิ.ย. 2561 |
ร้านค้าอัพเดท | 6 ก.ย. 2568 |