เนินอกอวบอิ่มด้วยซิลิโคนทรงกลม-อกสวยเป็นธรรมชาติด้วยทรงหยดน้ำ
ผู้หญิงที่มีขนาด หน้าอกใหญ่ อวบอิ่มมักจะรู้สึกมั่นใจ แต่งตัวก็ออกมาดูสวย มีส่วนโค้งส่วนเว้าน่ามอง ส่วนสาวอกเล็กมักรู้สึกว่าเป็นปมด้อย โดนทักว่าอกไข่ดาวบ้างล่ะ บางทีถูกแซวว่าอกแบนเป็นไม้กระดานก็มีบ่อย ทำให้รู้สึกเสียเซลฟ์อยู่ไม่น้อย วิธีแก้ปัญหาแบบไม่ต้องเสียเวลาดันทรงทุกครั้งยามแต่งตัวคือผ่าตัด เสริมหน้าอก ใส่ซิลิโคนเพิ่มความอึ๋มไปเลย การ ทำนม สมัยนี้เป็นเรื่องแสนธรรมดากระทั่งว่าในบรรดาการศัลยกรรมความงามทั้งหมดการ ทำหน้าอก กลายเป็นศัลยกรรมที่ได้รับความนิยมในอันดับต้นๆ เลยทีเดียว ปัจจุบัน การ เสริมหน้าอก มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในด้านเทคนิคและถุงซิลิโคนที่ใช้เสริม ซิลิโคนมีให้เลือกทั้งแบบทรงกลมหากต้องการเสริมแล้วได้เนินอกสวยอวบอิ่ม หรือถ้าชอบแบบสวยเป็นธรรมชาติก็ต้องเป็นทรงหยดน้ำที่รูปร่างซิลิโคนทำเลียนแบบเต้านมธรรมชาติจริงๆ
แต่เดิมถุงซิลิโคนจะผลิตขึ้นรูปมาเป็นทรงกลมอย่างเดียว แต่ปัจจุบันมีการพัฒนารูปทรงถุงซิลิโคนเป็นทรงหยดน้ำ แถมกระแสก็มาแรงในหมู่คนที่ต้องการเสริมหน้าอกด้วย
ซิลิโคนทรงกลม แม้ว่ากระแสซิลิโคนทรงหยดน้ำจะมาแรง แต่ซิลิโคนทรงกลมยังคงเป็นตัวเลือกที่เป็นมาตรฐานและดีที่สุด สำหรับคนที่ต้องการเสริมหน้าอกโดยทั่วไป, คนที่ต้องการเสริมหน้าอกขนาดใหญ่ หรือคนที่ต้องการเสริมให้เนื้อหน้าอกบริเวณด้านบนดูอวบอิ่มขึ้นเพื่อโชว์เนินอก ซิลิโคนทรงกลมมีขนาดที่หลากหลาย มีทั้งทรงพุ่งมากและพุ่งน้อย ในการเสริมก็ต้องเลือกให้เหมาะกับลักษณะของเต้านม, รูปร่างลำตัวของแต่ละคน เช่น ถ้าฐานเต้านมเล็กก็ควรเลือกซิลิโคนที่ขนาดไม่กว้างมาก หรือถ้าเต้านมพุ่งอยู่แล้วก็ไม่จำเป็นต้องเสริมด้วยทรงที่พุ่งมาก เป็นต้น นอกจากนั้นซิลิโคนทรงกลมจะมีความนุ่ม และขอบที่โค้งมนเข้ารูป เมื่อเสริมแล้วความรู้สึกสัมผัสบริเวณเต้านมจะนิ่มเป็นธรรมชาติ
ซิลิโคนทรงหยดน้ำ เป็นทรงที่ถูกออกแบบมาให้เลียนแบบเต้านมตามธรรมชาติที่ลักษณะคล้ายหยดน้ำ คือบริเวณส่วนล่างจะใหญ่กว่าส่วนบน หน้าอกหลังเสริมจึงดูเป็นธรรมชาติ และด้วยทรงของซิลิโคนที่ไม่สมมาตร หลังทำนมจึงไม่จำเป็นต้องนวด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการบิดเบี้ยว นี่คงเป็นเหตุผลที่ทำให้ซิลิโคนทรงหยดน้ำเป็นกระแสขึ้นมา อย่างไรก็ตาม การเสริมด้วยซิลิโคนทรงหยดน้ำ เวลาจับหรือสัมผัสเต้านมจะรู้สึกถึงซิลิโคนได้ โดยเฉพาะในคนที่มีผิวบาง เนื้อหน้าอกน้อย เพราะซิลิโคนเจลภายในของทรงหยดน้ำจะค่อนข้างแข็ง ไม่ค่อยยืดหยุ่น ซิลิโคนทรงหยดน้ำเหมาะกับคนที่ไม่ต้องการทำหน้าอกที่ใหญ่มากหรือเสริมแล้วไปเพิ่มความนูนของเนินด้านบนหน้าอก, คนที่ต้องการให้ทรงดูเป็นธรรมชาติ หรือคนที่หน้าอกหย่อนคล้อยเล็กน้อยหรือปานกลาง จะช่วยให้เต้านมเชิดขึ้นได้
นอกจากเรื่องของทรงถุงซิลิโคนที่พูดไปข้างต้น ยังมีข้อน่ารู้อื่นๆ เกี่ยวกับถุงซิลิโคน ทุกวันนี้ถุงซิลิโคนที่แพทย์ใช้ เสริมหน้าอก มีอยู่ด้วยกัน 2 แบบ คือ ถุงซิลิโคนเจล และ ถุงซิลิโคนน้ำเกลือ สองแบบนี้แตกต่างกันตรงที่ถ้าเป็นถุงซิลิโคนน้ำเกลือ เปลือกนอกของถุงจะเป็นซิลิโคนและภายในกลวง โดยมีช่องทางหรือวาล์วให้เติมน้ำเกลือให้ได้ขนาดตามต้องการ ส่วนถุงซิลิโคนเจลภายในจะบรรจุด้วยซิลิโคนที่เป็นชนิดเจลโดยผลิตสำเร็จรูปมาจากโรงงานมีขนาดต่างๆ กันไป
ถึงจะมีสองแบบให้เลือก แต่ทุกวันนี้ศัลยแพทย์ส่วนใหญ่รวมถึงที่ รพ.ยันฮี นิยม เสริมหน้าอก ด้วยถุงซิลิโคนเจล เนื่องจากถุงน้ำเกลือมีโอกาสเกิดการรั่วซึมหรือแฟบได้เมื่อใช้ไปนานๆ แม้ว่าน้ำเกลือที่รั่วซึมออกมานั้นไม่มีอันตรายแต่อย่างใดร่างกายสามารถขับออกได้ แต่ก็ต้องมาผ่าตัดเปลี่ยนถุงกันใหม่ ขณะที่ปัญหาการแตกรั่วของถุงซิลิโคนเจลแทบไม่มี ยิ่งสมัยนี้ถุงเจลมีการพัฒนาไปมาก เนื้อเจลภายในถุงมีการเกาะตัวกันสูงทำให้โอกาสจะแตกรั่วหรือซึมผ่านออกมานอกถุงเป็นไปได้ยากมาก นอกจากนั้นในเรื่องของความยืดหยุ่นหรือความนุ่มของถุงซิลิโคนเจลพบว่ามีความยืดหยุ่นใกล้เคียงกับเต้านมธรรมชาติมากกว่า
ส่วนผิวของถุงซิลิโคนที่ใช้ๆกันอยู่ทุกวันนี้ จะมีลักษณะผิว 2 แบบ คือ ผิวเรียบ และ ผิวขรุขระ หรือผิวทราย สำหรับชนิดผิวเรียบนั้นมีการใช้งานกันมานานมากแล้ว แต่พบว่ามีปัญหาเกิดเป็นพังผืดรัดถุงซิลิโคนทำให้เต้านมผิดรูปและแข็ง จึงได้มีการพัฒนาซิลิโคนผิวทรายขึ้นมา เพื่อลดภาวะแทรกซ้อนดังกล่าว ถึงวันนี้ศัลยแพทย์ส่วนมากจะหันมาเลือกใช้ซิลิโคนผิวทรายเสียเป็นส่วนใหญ่ แต่ซิลิโคนผิวเรียบก็มีที่ใช้กันอยู่ อย่างในกรณีมีเนื้อหน้าอกบางมากๆ การใช้ซิลิโคนผิวทรายอาจจะมองเห็นเป็นคลื่น (Rippling) ได้ หรือในคนที่ต้องการใส่ขนาดที่ใหญ่มากๆ การจะสอดซิลิโคนผ่านแผลผ่าตัด หากเป็นผิวเรียบจะทำได้สะดวกกว่าเพราะบีบให้เล็กลงได้ง่ายและมีความลื่นมากกว่า หรือบางคนที่ต้องการผิวสัมผัสที่นุ่มมือมากกว่าแพทย์ก็จะแนะนำชนิดผิวเรียบ
แพทย์ผ่าตัดใส่ซิลิโคนเข้าไปทางใด?
โดยทั่วไป ศัลยแพทย์จะผ่าตัดใส่ถุงซิลิโคนเข้าไปในเต้านมผ่านช่องทางใดช่องทางหนึ่งดังนี้
การ เสริมหน้าอก ด้วยซิลิโคนทรงกลม สามารถเปิดแผลผ่าตัดเพื่อใส่ซิลิโคนเข้าช่องทางใดก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นใต้รักแร้สองข้าง, บริเวณปานนม หรือใต้ราวนม โดยที่ซิลิโคนไม่เสียรูปทรง แต่ส่วนใหญ่แล้วแพทย์จะนิยมผ่าเข้าบริเวณใต้รักแร้เพื่อซ่อนรอยแผลเป็น ส่วนการเสริมซิลิโคนทรงหยดน้ำ แพทย์จะเปิดแผลใต้ราวนม โดยจะเปิดช่องสำหรับวางซิลิโคนให้พอดีไม่ใหญ่หรือเล็กเกินไป เพื่อไม่ให้ซิลิโคนหมุนตัวได้ จนอาจเกิดปัญหาถุงซิลิโคนผิดรูปหรือเต้านมบิดเบี้ยว บางคนอาจสงสัยว่าทรงหยดน้ำจะผ่าตัดใส่เข้าทางรักแร้ได้หรือไม่ ก็ต้องบอกเลยว่าหากผ่าเข้าทางรักแร้มีโอกาสที่ซิลิโคนจะหมุนบิดเสียทรงได้ ในคนที่เนื้อนมหนาก็อาจไม่เห็นแต่ถ้าเนื้อนมบางจะเห็นชัดเจน แล้วรูปทรงที่เปลี่ยนจะแก้ไขยาก ดังนั้นแพทย์จะไม่แนะนำให้ผ่าเข้าทางรักแร้
แพทย์วางซิลิโคนไว้ตำแหน่งไหนของเต้านม?
ตำแหน่งที่แพทย์จะวางซิลิโคนจะมีอยู่ 2 ตำแหน่ง คือ วางใต้กล้ามเนื้อ หรือ วางใต้ตัวเนื้อนม ซึ่งแพทย์จะเลือกตำแหน่งไหนนั้นจะดูลักษณะโครงสร้างเต้านมเป็นหลัก ไม่ได้ขึ้นกับความพอใจของผู้ที่มาเสริมอกอย่างเดียว
กรณีวางใต้กล้ามเนื้อ การวางที่ตำแหน่งนี้จะต้องมีการตัดกล้ามเนื้อบางส่วนออกไป ตอนทำจึงเจ็บมากและต้องพักฟื้นนาน แต่หลังเสริมจะได้เนินอกสวยลาดเอียงเป็นธรรมชาติ ลดปัญหาการคลำเจอหรือมองเห็นขอบถุงซิลิโคน ลดโอกาสที่ถุงซิลิโคนจะหย่อนคล้อย และโอกาสที่จะเกิดพังผืดเกาะรอบซิลิโคนมีน้อย
กรณีวางใต้ตัวเนื้อนม หลังเสริมเต้านมจะชิดกันดูสวยงาม แถมยังไม่ค่อยเจ็บเพราะไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวกับกล้ามเนื้อ แต่ตำแหน่งนี้มีโอกาสเกิดพังผืดสูง และไม่เหมาะกับคนที่รูปร่างผอม เนื้อเต้านมน้อย เพราะจะเห็นขอบซิลิโคนชัดเจน
การ เสริมหน้าอก ไม่ว่าจะวางซิลิโคนไว้ตรงตำแหน่งไหนไม่มีผลต่อการให้นมบุตร เนื่องจากถุงซิลิโคนวางอยู่ด้านใต้เนื้อนมส่วนที่ใช้สร้างน้ำนม จึงไม่มีผลกระทบต่อการสร้างน้ำนมแต่อย่างใด หากตั้งครรภ์ก็สามารถให้นมบุตรได้ตามปกติ
ต้องนวดหน้าอกหลังเสริมหรือไม่?
นี่คงเป็นข้อสงสัยในใจของหลายๆ ท่าน ด้วยที่ผ่านมาหลังเสริมแพทย์มักจะกำชับให้นวดหน้าอกอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากการ เสริมหน้าอก ด้วยถุงซิลิโคนนั้น ร่างกายจะสร้างพังผืดมาห้อมล้อมถุงซิลิโคนไว้เสมอ ถ้าพังผืดมีมากก็อาจทำให้เต้านมมีลักษณะแข็งตึงไม่เหมือนธรรมชาติได้ แต่เดี๋ยวนี้ก็มีที่ว่าเสริมแล้วไม่ต้องนวดด้วย ทำให้บางท่านอาจสับสน ดังนั้นขออธิบายให้เข้าใจพอสังเขปดังนี้
หลังเสริมแล้วไม่ต้องนวดจะแบ่งเป็น 2 กรณีคือ
ในกรณีเสริมด้วยซิลิโคนทรงกลมทั่วไป ที่ไม่ใช่ซิลิโคนเจลรุ่นใหม่ หลังเสริมจะต้องทำการนวดหน้าอก เพื่อป้องกันปัญหาการเกิดพังผืดหดรัดถุงซิลิโคนทำให้เต้านมที่เสริมไปแข็งตัว โดยปกติซิลิโคนทรงกลมจะนวดได้ง่าย ไม่ต้องกังวลว่าจะเสียทรงหรือบิดเบี้ยวเหมือนทรงหยดน้ำและแพทย์มักแนะนำให้นวดนานประมาณ 6 เดือนถึง 1 ปี ควรรอให้หายเจ็บปวดก่อนจึงจะเริ่มนวดโดยนวดเบาๆ รอบเต้านม วันละ 2-3 รอบ รอบละประมาณ 3-5 นาที กรณีเสริมด้วยซิลิโคนผิวทราย ควรเริ่มนวดหลังจากสองสัปดาห์ไปแล้ว ถ้ารีบนวดอาจทำให้เกิดการเสียดสีกับโพรงใต้กล้ามเนื้อทำให้เกิดเลือดซึมออกมาภายในได้ และไม่จำเป็นต้องนวดบ่อย เพราะโดยผิวที่ขรุขระของถุงซิลิโคนจะช่วยลดการเกิดพังผืดได้ในระดับหนึ่ง ส่วนการเสริมด้วยซิลิโคนผิวเรียบสามารถเริ่มนวดได้เร็วและจะไม่ค่อยเจ็บมากเวลานวด
เตรียมตัวอย่างไรก่อน เสริมหน้าอก
ขอบคุณที่มา : https://th.yanhee.net
หน้าที่เข้าชม | 101,651 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 84,799 ครั้ง |
เปิดร้าน | 21 มิ.ย. 2561 |
ร้านค้าอัพเดท | 6 ก.ย. 2568 |